โรงงานโอ่งรัตนโกสินทร์ 1

       โรงโอ่งรัตนโกสินทร์ 1 เป็นหนึ่งในโรงงานปั้นโอ่งเก่าแก่ของราชบุรี นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมการปั้นโอ่งในโรงงานแล้ว ยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาต่างๆ จากโรงงานได้

- เปิดตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นค่ะ
- ห้ามถ่ายภาพการทำโอ่ง(เด็ดขาด)นะคะ
- ถ้าต้องการติดต่อก่อนเดินทางไปก็เอาเบอร์ไปเลยค่ะ 0-3231-6788, 0-3232-1322-3 /เว็บไซด์ก็มีนะคะ www.potterythai.com

ตั้งอยู่ที่ ทางหลวงหมายเลข 4 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี

การเดินทาง ถ้านำรถยนต์ส่วนตัวไป เริ่มจากแยกเขางู ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ไปทาง อ.โพธารามประมาณ 3.5 กม. โรงโอ่งอยู่ทางขวามือ

ชมและเลือกซื้อโอ่งราชบุรี จำหน่ายโอ่งขนาดต่างๆ นานาชนิดและผลิตภัณฑ์เซารามิก อย่างเช่นโอ่งใบจิ๋ว ตุ๊กตาเซารามิก โมบาย ที่เขี่ยบุรี่ จาน ชาม กระถางต้นไม้ โอ่งมังกร สามารถชมขั้นตอนการผลิตภายในโรงงานได้

ดินที่นำมาปั้นเซรามิกทำนำมาจากจังหวัดเชียงใหม่  การปั้นแจกันต้องค่อยๆๆปั้นที่ละชั้น ไม่งั้นแจกัลจะไม่เป็นทรง

ภาพบรรกาศรอบๆรัตนโกสินทร์

ตรวจสอบ Pang Rank และค่า Index ของเว็บไซต์

ค่า PR เท่ากับ  2  ค่า Index  เท่ากับ  1,480

http://www.aircardok.com

          เว็บไซต์นี้เป็นเว็บสำหรับการขายอุปกรณ์ IT  เช่น แอร์การ์ด ฯลฯ

ค่า PR เท่ากับ  6    ค่า  Index  เท่ากับ  516,000

http://www.lg.com

        เว็บไซต์นี้เป็นเว็บสำหรับขายสินค้า LG โดยเฉพาะ เช่น  โทรทัศน์ ฯลฯ

สาเหตุที่ทำให้ธุรกิจ E-commerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จ

1. สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
สาเหตุที่ทำให้ธุรกิจ E-commerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรนั่น ส่วนนึงเป็นเพราะลักษณะนิสัยของคนไทย ที่ชอบเห็นสิ่งของนั่น ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ว่าสินค้าที่เราจะซื้อลักษณะที่จับต้องได้เป็นอย่างไร แล้วค่อยออกไปซื้อยังร้าน โดยการเดินทางต้องมีระยะสั้น ใช้เวลาไม่นาน ซึ่งแตกต่างจากต่างประเทศที่ ส่วนใหญ่แล้วจะซื้ิอสินค้าออนไลน์แทนเพราะสะดวกรวดเร็วกว่าการเดินทางไปซื้อเอง ในการชำระสินค้านั่นก็ชำระเงินออนไลน์แทน โดยคนไทยนั่นส่วนน้อยมากที่มีความรู้ความเข้าใจในการชำระเงินออนไลน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ถึงแม้ว่าผู้ทีทำธุรกิจ E-commerce ในประเทศไทย จะทำเว็บไซต์ขึ้นมาสวยหรูอำนวยความสะดวกแค่ไหน ถ้าคนไทยไม่รู้จัก ธุรกิจ
E-commerce และใช้ไม่เป็นก็แค่นั่น

2. ถ้าอยากจะให้ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ น.ศ.คิดว่าควรจะต้องประกอบด้วยปัจัยใดบ้าง

1. ควรที่จะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับทำการตลาดแบบ E-commerce เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจคำว่า E-commerce
2. พัฒนา E-commerce ให้ง่ายต่อการใช้งาน
3. ควรมีการส่งเสริมให้มีการทำธุรกิจ E-commerce ให้มากขึ้น

Online Business with Google

สรุปเนื้อหาที่ได้รับ

การนำระบบออนไลน์มาประยุกต์เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจโดยการนำ ZMOTมา ใช้ช่วงเวลาที่ลูกค้าจะมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ก่อนหน้าที่จะไปถึงร้านค้า จริงกล่าวคือการค้นหาข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตัวของสินค้าที่เกิดขึ้น ก่อนการไปที่หน้าร้านจริง โดยการเริ่มต้นการหามูลจาก รีวิวหรือสื่อๆ ทั้ง youtube Social Media หรือแม้แต่การใช้โทรศัพท์เพื่อดูรายละเอียดสินค้านั้นๆ เพื่อเป็นข้อมูลก่อนก่อนการตัดสินใจไปซื้อสินค้าที่หน้าจริง
1.Get your business online การมีตัวตนบนโลกออนไลน์ คือการค้นจาก Google แล้วเจอ มีผลของการค้นหาที่เป็นหน้าเว็บไซต์ของเรา
2.Be found –when customer is reading คือการถูกค้นหา การถูกค้นหา มี 2 ส่วน ที่ทำให้เราตัดสินใจได้ว่ามีตัวตน และผู้บริโภคจะพบเรา คือ Google adwords และ natural result(ผลเสิร์ซโดยปกติ)
3.Be reached Show where you are คือ การปรากฏตัวบนแผนที่ ซึ่งแผนที่นี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเดี๋ยวนี้ผู้บริโภคจะค้นหาสถานที่ต่างๆ จากแผนที่ออนไลน์ แผนที่ออนไลน์เดี๋ยวนี้มี Google map street view ทำให้ลูกค้าสามารถเห็นสถานที่เสมือนจริงได้เลย
4.Get closer to your customer ต้องอาศัย Social media ซึ่งอาจจะเป็น Google + ของ Google ก็ได้ ซึ่งตอนนี้ Google+ มีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นมาที่น่าสนใจคือ Google+ Hangouts ที่จะทำให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคสนทนากันแบบวีดีโอ สามารถดึงไฟล์เอกสารพร้อมกันได้ ดูคลิปพร้อมกันได้
5.Increase your performance การวัดผลการทำการตลาด โดย Google ที่ชื่อว่า analytics.google.com ว่ามีผู้ใช้เว็บไซต์ของคุณอย่างไร เป็นต้น
6.Engage your customers : anywhere-anytime คือการค้นหาสินค้าและบริการทุกที่ ทุกเวลา จากสมาร์ทโฟน
7.Go Global (AEC) การเข้าถึงได้ทั่วโลก ทำให้เราสามารถขายสินค้าได้ทั่วโลก โดยใช้ Google translate ช่วยในการแปลภาษาให้สามารถเข้าใจและสื่อสารกันได้ในระดับหนึ่ง

Social media ไม่ใช่ว่าจะมีแต่การออนไลน์แบบไม่ออนไลน์ก็มี ถ้าพูดถึงการเปลี่ยนแปลงใน การตลาดการสื่อสารทางการตลาดก็ต้องเปลี่ยนไปการเปลี่ยนแปลงในการสื่อสารเป็น ตัวขับเคลื่อน ในการสร้างBrand ก็ไม่สามารถมีบทบาทในการสนทนากับลูกค้าได้ ถือว่าการทำการตลาดนั้นไม่ค่อยประสบความสำเร็จ การตลาดนั้นถือว่าล้มเหลว ถ้าจะสร้าง Brand ให้ประสบความสำเร็จจะต้องอาศัย Social มาช่วยในการสร้าง Social สามารถใช้ Brand ได้ 3 คำ คือ
1. Social
2. Dialogue
3. Share
พวกนี้มันจะอยู่ภายใต้คำว่า “ ปากต่อปาก ” มันจึงทำให้มีบทบาทในการตลาดมากขึ้นประชากรบนโลกจะมีความเป็นอิสระมากขึ้น
Media มี 4 ประเภท
1. OWNED MEDIA คือ ผู้ประกอบการเป็นเจ้าของเป็นสื่อของเราเอง
2. PAID MEDIA คือ สื่อที่ต้องมีการจ่ายผ่านสื่อ
3. EARNED MEDIA คือ ลูกค้าผู้บริโภคทั่วไปเป็นเจ้าของ
4. SOCIAL MEDIA คือ สังคมออนไลน์ที่ผู้ใช้เป็นผู้สื่อสารในเรื่องราวต่างๆผ่านเว็บไซต์